บิ้วอินห้องครัว ง่ายๆทำเอง

บิ้วอินห้องครัว ง่ายๆทำเอง ครัวบิวต์อินทำเอง ตั้งแต่วาดแบบและก็สร้างกระทั่งเสร็จ

บิ้วอินห้องครัว ง่ายๆทำเอง บ้านวิลล่าภูเก็ต ทำครัวบิวต์อิน ในบ้าน เริ่มตั้งแต่คิดแผน ดีไซน์ จับจ่ายซื้อของ แล้วก็ลงมือกระทำ เป็นเคาน์เตอร์ปูนผสมลิ้นชักไม้ รวมทั้งตู้ลอยไม้สุดคลาสสิก ตัดกับกระเบื้องฝาผนังสีขาวสะอาดตา พร้อมราคาสิ่งของทั้งปวง

ครัวเป็นอีกห้องหนึ่งที่สำคัญของบ้าน โดยยิ่งไปกว่านั้นผู้ที่ถูกใจทำอาหารทำครัว พวกเราสามารถตกลงใจว่าจะว่าจ้างช่างมาทำอาหารให้โดยเสียค่าเหนื่อยเพิ่ม ขายวิลล่าภูเก็ต หรือไปเลือกแบบครัวบิวต์อินเลยว่าจะเอาอย่างนั้นแบบงี้ก็ได้ แม้กระนั้นสำหรับคนไหนกันแน่ที่ไม่ได้อยากเสียค่าแรงงานช่าง หรือคนมีงบประมาณจำกัดลองทำอาหารบิวต์อินด้วยตัวเองดีไหม

วันนี้พวกเรามีไอเดียทำครัวเอง ของ คุณสมาชิกเลขลำดับ 4682278 สมาชิกเว็บพันทิปดอทคอม มีตั้งแต่ว่าขั้นตอนดีไซน์ ซื้อสิ่งของต่างๆรวมถึงหุงหาอาหารด้วยตัวเอง พูลวิลล่า แม้ว่าจะใช้เวลาคิดแผนและก็ทำกับข้าวมาถึงครึ่งปี แม้กระนั้นก็เสร็จสิ้นประทับใจเจ้าของบ้านโดยแท้จริง

ขอเล่าที่มาสักหน่อยหนึ่งนะครับ

สวัสดีครับผม ภายหลังที่วุ่นวายกับการลงมือบิวต์อินครัวด้วยตัวเองอยู่นับเป็นเวลาหลายเดือน ทั้งยังหาข้อมูล, คิดแผน, เลือกจ่ายตลาดรวมทั้งลงมือกระทำ กระทั่งท้ายที่สุดก็เดินทางมาถึงวัตถุประสงค์ PhuketVilla ตั้งมั่นว่าภายหลังจากเสร็จงานทั้งผองจะเขียนเล่าสิ่งต่างๆที่พบเพื่อแชร์ประสบการณ์กระบวนการทำครัวของพวกเราไว้เป็นแรงดลใจสำหรับผู้ที่ต้องการจะทำครัวด้วยตัวเอง หรือเป็นข้อมูลประกอบกิจการตกลงใจสำหรับผู้ที่ยังตกลงใจมิได้ว่าจะทำเองดีไหม ?

หรือ ตกลงใจแล้วว่าจะลงมือเอง แต่ว่าไม่เคยรู้ว่าจะเริ่มจากที่ไหน ? ต้องใช้เงินเยอะแค่ไหน ? ประมาณมูลค่าใช้จ่ายอย่างไร ? จำต้องใช้เครื่องไม้เครื่องมืออะไรบ้าง ? หาได้จากที่ไหน ? หัวข้อนี้อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีคำตอบภายหลังที่อ่านจบ Pool ซึ่งพวกเราหวังว่าจะมีคุณประโยชน์ไม่มากมายก็น้อยสำหรับผู้ที่พึงพอใจนะครับ

ขอออกสตาร์ทก่อนว่า “พวกเรา” ทั้งคู่คนไม่ใช่มือโปรสำหรับงานด้านนี้ ธรรมดาแล้วดำเนินงานทุกวันจันทร์-วันศุกร์ มีเวลาว่างวันเสาร์-วันอาทิตย์ ถ้าหากมิได้ไม่ว่างไปก็จะดำเนินงาน DIY นิดๆหน่อยๆเลยทำให้เพียงพอจะมีเครื่องมืองานช่างสะสมไว้บางส่วน มีต้นทุนอยู่บ้างนะครับ มิได้เริ่มจากศูนย์ซะอย่างยิ่งจริงๆ

แต่ว่า… ในส่วนของงานปูนจำเป็นต้องบอกเลยว่าประสบการณ์พอๆกับ “ศูนย์” งานนี้เป็นครั้งแรก บางแนวทางบางครั้งอาจจะผิดจะต้อง ไม่เหมาะสม ตามหลักงานช่างเยอะแค่ไหน ถ้าหากสมาชิกมีข้อแนะนำเพิ่มเติมอีกสามารถคอมเมนต์ชี้แนะเพื่อมีประโยชน์กับพวกเราทั้งคู่คนและก็สมาชิกท่านอื่นๆที่พึงพอใจต้องการจะปฏิบัติงานนี้ด้วยตัวเองนะครับ

จุดกำเนิดของเรื่องมันก็เริ่มจากรับโอนบ้านจากทางโครงงานรวมทั้งย้ายเข้าอยู่แบบเสื่อผืนหมอนใบ ห้องแรกที่พวกเราสองคนตั้งมั่นจะทำก็คือ “ครัว” เพราะว่าพวกเราถือคติที่ว่า “กองทัพจำต้องเดินด้วยท้อง” (เกี่ยวไหม อันนี้ก็ยังไม่แน่ใจมากแค่ไหน) และก็เพราะเหตุว่าพวกเรามีงบประมาณออกจะจำกัด ไม่สิจำต้องบอกว่า “งบประมาณหมด” ถึงจะถูก เมื่อจะไปว่าจ้างช่างมาทำให้ก็ขาดเงินก้อน เพียงพอพบที่ราคาสู้ไหวก็ใช้สิ่งของที่ไม่ค่อยทน (ทราบดีว่าของถูกแล้วก็ดีมันหายาก

ซื้อสลากกินแบ่งยังมีลุ้นมากยิ่งกว่ามั้ง) ส่วนช่างที่เพียงพอจะรู้จักก็คิวทองคำอย่างยิ่ง จำต้องจองกันผ่านปี ไหนๆก็ไหนๆทำเองเลยตามใจ พอเพียงเลือกทำเองก็เลยทำให้จะต้องคิดแผนมากขึ้นเรื่อยๆ คิดแผนอย่างระมัดระวังที่สุด ทั้งยังเรื่องของอุปกรณ์ที่จำเป็นจะต้องใช้ เครื่องไม้เครื่องมือหรือวัสดุช่างที่บางครั้งอาจจะจะต้องซื้อมาเพิ่ม โดยสิ่งกลุ่มนี้หวังว่าจะเอามาใช้กับโปรเจกต์อื่นๆที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ด้วย

การตัดสินใจของพวกเราจะใช้แนวทางถามแล้วก็ตอบตนเองเป็นข้อๆไปขอรับ (การวางเป้าหมายแล้วก็การตัดสินใจจะเขียนไว้ยาวหน่อยครับ สำหรับท่านที่ต้องการรู้กรรมวิธีการลงมือกระทำจริงเลย ให้ผ่านไปที่ส่วนต่อไปได้เลยขอรับ)

ปัญหาที่ 1 : ว่าจ้างช่าง ? หรือ ทำเอง ?

สำหรับผู้ที่ตกลงใจมิได้ว่าจะ “ว่าจ้างช่าง” หรือ “ทำเอง” พวกเราขอแชร์แนวทางคิดและก็การตัดสินใจของพวกเราเวลานี้เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับในการตกลงใจของท่านอย่างงี้ครับ

สำหรับผู้ที่ตกลงใจมิได้ว่าจะ “ว่าจ้างช่าง” หรือ “ทำเอง” พวกเราขอแชร์แนวทางคิดรวมทั้งการตัดสินใจของพวกเราในขณะนั้นเพื่อเป็นข้อมูลสำหรับในการตกลงใจของท่านแบบงี้ครับ

การว่าจ้างช่าง หรือ การซื้อชุดห้องครัวแบบสำเร็จรูป แน่ๆว่าจะมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างจะสูงขึ้นมากยิ่งกว่าวิธีการทำเอง (ในเรื่องที่เลือกของดีหน่อย) รายจ่ายเหล่านี้จะมาจากค่าวัสดุเครื่องไม้เครื่องมือและก็ค่าตอบแทนของช่าง (เรียกว่าค่าประสบการณ์ของช่างจะสมควรกว่า) เป็นหลัก จำนวนมากแล้วค่าจ้างจะคงเดิมถ้าหาก Drawing

หรือ แบบของพวกเราแจ่มชัด ช่างจะประมาณราคาเหมาง่ายดาย ดีไม่ดีจะต่อรองได้ด้วยเนื่องจากว่าพวกเราลดเวลาทำงานของเขา แต่ว่าสิ่งที่จะทำให้งบประมาณแย่ลงกว่าเดิมมันจะมาจากตัวเราเองที่อยากได้ของนี่โน่นมากขึ้นบ่อย ซึ่งที่ตรงนี้พวกเราจะต้องควบคุมเอง (ย้ำเลยว่ากิเลสย่อมหยุดด้วยการซื้อ) แม้กระนั้นจุดเด่นสำหรับในการว่าจ้างช่างหมายถึงงานเสร็จเร็ว ไม่ต้องอ่อนเพลียลงแรงตนเอง บ้านเกลื่อนกลาดไม่นาน ไม่ไม่จบสิ้น มีเวลาเหลือไปทำอันอื่นอีกเยอะแยะ

ส่วนตัวเราสองคนเลือกที่จะทำเอง โดยตกลงใจแบบไม่มีลังเลเลยนิดหน่อย เนื่องจากไม่มีตังค์ เอาจริงเอาจังๆก็คือ ว่าจ้างเขาทำจะต้องใช้เงิน ทำเองมันทยอยจับจ่ายซื้อของได้เสมือนผ่อนเอา ซึ่งพอเพียงมาคิดค่าใช้สอยรวมๆของโปรเจกต์นี้ก็พบว่ามันไม่ค่อยผิดแผกนะ หากพวกเราว่าจ้างช่างมือโปรมาทำให้ แต่…สิ่งที่พวกเราได้เป็น

• 1. พวกเราสามารถเลือกของที่เกรดดียิ่งขึ้นด้วยเงินที่เสมอกันซึ่งมีความรู้สึกว่าจะแก่การใช้แรงงานนานขึ้นด้วย
• 2. พวกเราได้ประสบการณ์สำหรับในการวางแผนปฏิบัติงานตั้งแต่ต้นจนถึงจบ ได้การทราบในการศึกษาวิจัยข้อมูลที่ได้มาจากแหล่งต่างๆได้ sense สำหรับการไขปัญหาหน้างานแบบรู้สึกได้ (อันนี้ยังไม่มั่นใจว่ามนัสไปเองรึเปล่านะ) และก็ที่สำคัญที่สุดเป็นข้อที่
• 3. ได้เครื่องไม้เครื่องมือช่างเพิ่ม หาเหตุผลเข้าข้างตัวเองจ่ายตลาดได้แล้ว แม้กระนั้น…สำหรับผู้ที่ไม่มีของเลยสักชิ้น เป็น Maker ป้ายแดง จะต้องกล่าวว่าหนแรกจะเจ็บตัวนิดเดียวนะ แต่ว่าถ้าหากคิดแผนดีๆสำหรับผมจัดว่าคุ้ม เนื่องจากถึงจะอย่างไรเครื่องใช้ไม้สอยบางสิ่งมันจำเป็นที่จะต้องมีติดบ้านอยู่แล้ว (ที่เขาบอกกันว่าของมันจำเป็นต้องใช้ ความเป็นจริง !)

กล่าวถึงจุดด้วยมันก็มีนะ เรื่องจำเป็นด้วย เป็นจะต้องเห็นด้วยเลยว่าทำเองมันจะต้องแลกเปลี่ยนกับเวลาในชีวิตพอควรอยู่ ของผมนี่แทบ 6 เดือนได้มั้ง (เฉลี่ยวันทำงานราวๆ 8 วัน/เดือน มิได้ทำทุกๆวัน) รวมทั้งที่สำคัญมันอิดโรยโคตรๆสำหรับผู้ที่ใช้ความมานะบากบั่นอย่างยิ่งเพื่ออ่านจนกระทั่งที่ตรงนี้ ก็ต้องการให้ทดลองตกลงใจ และก็เปรียบจุดเด่น-จุดบกพร่องของแต่ละทางมอง หากพวกเราดำเนินการเดียวอาจไม่คุ้มในเชิงของรายจ่าย แต่ว่าถ้าเกิดมีหลายโปรเจกต์ก็นับว่าน่าลงทุนนะ ?

สำหรับผู้ที่ตกลงใจได้แล้วว่าจะทำเองนั้นจำต้องกล่าวว่า “ยินดีต้อนรับสู่ขณะที่การเล่าเรียนแล้วก็ขณะที่วันสุดสัปดาห์จะไม่ใช่วันหยุดนอนดูโทรทัศน์หรือนั่งเล่นเกมชิวๆอีกต่อไป (ตราบจนกระทั่งโปรเจกต์นี้จะจบ)

ปัญหาที่ 2 : เริ่มจากที่ไหน ? ควรต้องใช้เงินมากแค่ไหน ? ตีค่าใช้จ่ายอย่างไร ?

– ในมุมมองของพวกเราสองคน อย่างแรกที่พวกเราจำเป็นที่จะต้องทราบเป็น ภาพรวมของครัวที่พวกเราต้องการจะได้ ด้วยเหตุดังกล่าวพวกเราก็เลยเลือกที่จะวาดแบบ 3D ก่อน โดยใส่เนื้อหาให้เยอะที่สุดเท่าที่พวกเราจะวัดได้และก็วาดแบบในโปรแกรม Google sketchup ด้วยแนวทางลักษณะนี้จะมีผลให้เห็นภาพรวมรวมทั้งเนื้อหาของงานทั้งหมดทั้งปวง รวมทั้งประเมินงบประมาณอย่างคร่าวๆที่พวกเราควรต้องใช้ได้ด้วย

-สำหรับ Google Sketchup เป็นโปรแกรมที่ Google เปิดให้ดาวน์โหลดฟรีสำหรับ Version Basic ซึ่งพอเพียงต่อการใช้แรงงานในระดับคนธรรมดาทั่วไป (ในส่วนของวิธีการใช้งานโปรแกรม สามารถค้นหาและก็เรียนรู้ได้จาก YouTube ที่หลายๆช่องสอนการใช้แรงงานให้ละเอียดเอาไว้แล้วขอรับ กล้วยๆแป๊บก็เป็นแล้ว) ให้เวลากับโปรแกรมบางส่วน ส่วนตัวสำหรับเราสองคนจัดว่าคุ้มมากมายๆเลย

– พื้นที่สีส้มหมายถึงพื้นที่ที่พวกเราจะใช้เพื่อการบิวท์อินครัวของพวกเรา ขนาดที่วัดได้ราว 6 ตารางเมตร ซึ่งแผนการได้เดินท่อน้ำทิ้งขนาด 2 นิ้วไว้ให้ (ตำแหน่งของซิงค์ล้างถ้วยชามก็เลยถูกบังคับไว้เป็นระเบียบแล้ว) และก็ด้วยพื้นที่ที่ค่อนข้างจะจำกัด พวกเราก็เลยกำหนดรูปแบบของเคาน์เตอร์ห้องครัวเป็นรูปตัวแอล (L) เว้นช่องว่างไว้ราวๆ 1 เมตร สำหรับตู้แช่เย็น ให้อยู่ด้านขวามือของซิงค์ล้างถ้วยชาม (ใจจริงถูกใจการดีไซน์ Island มากมายๆแม้กระนั้นทำอะไรมิได้ บ้านมันแคบ)

– สำหรับผู้ที่คิดไม่ออกจริงๆว่าจะเริ่มจากที่ไหนชี้แนะให้เริ่มวางเลเอาท์ของเคาน์เตอร์ห้องครัวที่พวกเราอยากได้อย่างคร่าวๆเป็นขั้นแรก โดยให้นึกถึงความสบายสำหรับในการใช้งานของสมาชิกในบ้าน แนวทางของประตูแล้วก็การถ่ายเทอากาศ ซึ่งค่อนข้างจะต้องสำหรับครัว โดยยิ่งไปกว่านั้นห้องครัวที่วางเอาไว้ในตัวบ้าน ชอบเจอปัญหาด้านกลิ่นจากการประกอบอาหารแบบบ้านพวกเรา มันจะเป็นฝันร้ายของโซฟาแล้วก็ผ้าม่านแบบสุดๆ

– ภายหลังจากเลเอาท์เสร็จ ลำดับต่อไปก็เป็นการวางองค์ประกอบ 3 มิติ ในขั้นตอนนี้พวกเราชี้แนะว่าอย่าพึ่งจะใส่เนื้อหาของตู้ทั้งปวง เพราะว่าพวกเรามั่นใจว่า จะมีการปรับแต่งแบบอีกหลายรอบ เพราะฉะนั้นการวางองค์ประกอบแบบกล่องๆจะก่อให้พวกเราเห็นภาพรวมโดยที่พวกเราจะเสียเวล่ำเวลาต่ำที่สุด เพียงพอรูปร่างทั้งสิ้นสมควรแล้ว ลำดับต่อไปพวกเราก็เลยเริ่มใส่เนื้อหาของตู้ ปริมาณชั้น หรือ เนื้อหาเกี่ยวกับฟังก์ชันการใช้แรงงานที่พวกเราอยากได้ ในขั้นตอนนี้พวกเราจะรู้ดีว่าพวกเราจำเป็นที่จะต้องใช้ฟิตติ้งกี่แบบ ปริมาณเยอะแค่ไหนตำแหน่งของปลั๊กไฟ รวมทั้งอื่นๆ

หมายเหตุ : สำหรับผู้ที่ไม่มีฐานรากเรื่องรูปทรงต่างๆของครัว เสนอแนะให้เข้าเว็บ pinterest แล้วก็ค้นหาด้วยคีย์เวิร์ว่า “Kitchen cabinets dimensions and standard” พวกเราก็จะได้ข้อมูลของตู้มาตรฐานที่ใช้ๆกันอยู่ครับผม หรือเข้าไปเพื่อหาไอเดียแบบอย่างครัวก็ได้ เป็นแหล่งข้อมูลที่ค่อนข้างจะดีอันดับที่หนึ่งเลย โดยธรรมดา ความกว้างของเคาน์เตอร์จะอยู่ที่ 60 ซม.

แล้วก็ความสูงจากพื้นถึงท็อปเคาน์เตอร์ที่โดยประมาณ 77-80 ซม. จะเหมาะสมกับรูปร่างของชาวไทย แต่ว่าตอนทำจริงๆจะลดตัวส่วนประกอบหลักลงหน่อยเดียวถ้าหากพวกเราก่ออิฐรวมทั้งหล่อท็อปเคาน์เตอร์ เนื่องจากบางครั้งอาจจะจะต้องเผื่อความดกจากการปูกระเบื้องด้วย ซึ่งขนาดเล็กสุดของแผ่นแกรนิตโต้จะอยู่ที่ 60X60 ซม. แต่ว่าหากแผ่นท็อปเคาน์เตอร์หินก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมาวิตกกังวลเครื่องความกว้าง เนื่องมาจากตัดตามสิ่งที่ต้องการของพวกเราได้

– ภายหลังจากดีไซน์อยู่ครู่หนึ่ง ท้ายที่สุดแบบครัวของพวกเราก็พอดีสักครั้ง ในส่วนของการเขียนแบบ พวกเราใช้เวลาอยู่นานพอควรเลย แต่ว่าจุดเด่นคือพวกเราทราบว่าจะเริ่มงานได้จากที่ไหนก่อน มีปัญหาส่วนไหนที่พวกเราบางครั้งก็อาจจะจำต้องพบ และก็ได้แนวทางจัดแจงปัญหาก่อนที่จะมันจะเกิดขึ้นจริง ถ้าหากจะให้เขียนก็คงไม่จบกล้วยๆแต่ว่าสิ่งหนึ่งที่บอกได้เลยเป็นแบบดีมีชัยไปกว่าครึ่ง ดำเนินการง่ายดายมากยิ่งขึ้นมาก

อ่านต่อเพิ่มเติม: Pool Villas Pasak . sale villa . Phuket Villa. Pool Villa. พูลวิลล่าภูเก็ต. โครงการบ้านภูเก็ต. บ้านจัดสรร. พูลวิลล่าภูเก็ต ราคาถูก. ซื้อวิลล่าภูเก็ต